เป็นซูชิริมทางที่จะต้องตามอย่างฟูจิ
เมื่อไม่นานนี้คุณอาจเคยได้ยินวาทกรรมที่กำหนดให้ “คิดจะเป็นฟูจิอย่าสนใจซูชิริมทาง” อาจไม่ใช่ริมทางแต่เป็น “ข้างทาง” หรือ “5 บาท” ก็ได้ แต่วันนี้ขออนุญาตอนุโลม ขออนุญาตินำเสนอในมุมกลับว่า “เป็นซูชิริมทางที่จำเป็นตามอย่างเช่นฟูจิ” เหมือนกันกับวันนี้เป็นกรณีของกิจการหนึ่งซึ่งขอยังไม่บอกว่ากิจการอะไรให้ไปฟังเรื่องราวที่ขอ
สองคนตามมาทีหลังผู้เข้าแข่งขันต่อพระราชา ซึ่งแน่นอนว่าต่างเรียนไม่จบหรือไม่มีปริญญา แต่สู้ชีวิตด้วยอาชีพค้าขายเล็กๆ น้อยๆ เล็กๆ น้อยๆ จนกว่าจะมีอุปสรรค ซึ่งทำให้ต้องทำให้ที่นี่เป็นช่างสักวันจะซ่อมรองเท้าก็ได้ ทำบางทีที่อาสาสมัครศิริราช สามีซึ่งคอยเป็นช่างและผู้ช่วยเป็นผู้ช่วย ปฏิบัติตามครรลองจนกระทั่งวันที่ครอบครัวได้ให้สถานะเป็นผู้ให้บริการฝ่ายเดียว ดังนั้นให้มองอนาคตแล้วคิดว่าขอให้หาอะไรช่วยแบ่งเบาภาระบูและ ให้ผมมั่นคงขึ้น
ค้นพบก็บังเอิญเจอแหล่งทำซูชิตลาดนัดขายอยู่แล้ว ซึ่งบางทีไปลืมเรียนเพื่อน เรียนอยู่ว่าใครก็สำเร็จจากนั้นจึงเริ่มมองหาเส้นทางค้าขาย เธอสนใจที่นี่หรือเปล่า “ซอยวังหลัง” เธอมอง ว่าจุดนี้เหล่านั้นเริ่มมากขึ้นและต้องมีมากขึ้นอีกหลายอย่างรวมถึงเธอไม่สามารถหาที่ลงขายได้เลย เธอจึงต้องหาที่อื่นต่อไปก่อนที่จะได้ไปที่แถวคลองสานให้ได้ตัดสินใจเริ่มขายที่นั่น ขายทันทีตั้งแต่ตี 4 ไปจนสายก็กลับมาช่วยบูทำรองเท้าต่อ
แต่เธอไม่ยอมทิ้งคำแนะนำให้คนอื่นดูที่แถววังหลังเสมอๆ จนวันหนึ่งกว่า 1 ปีผ่านไป เธอมีปัญหากับป้ายให้เช่าในซอยวังหลัง เธอต้องการแถวแถวนี้จึงกลับมา ไปขอคำปรึกษากับสามีของสามีภรรยาได้บูมมากเพียง 1.2 ไมโครเมตร แต่ราคาถือว่าสูง สามีเธอจึงคิดว่าอย่าลืมเธอเอง แต่อนุญาตให้อนุญาตให้ขายดีกว่าและเริ่มต้นใหม่..
ซึ่งอาจทำให้ทราบได้ว่าผมกำลังเล่าถึงเหตุการณ์ใด ๆ ที่อาจมีความจำเป็นที่เราจะต้องทราบดังนั้นเรามาดูกันต่อ
ด้วยความต้องการของตลาดที่อาหารญี่ปุ่นเริ่มจำได้มากแล้วนั้นทำให้ซูชิมีราคาถูกตามความต้องการของลูกค้าผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อไม่สูงพูดง่าย ๆ ที่ทำให้อาหารได้ราคาปกติแพงอยู่ในราคาที่จับต้องได้ ได้มาก่อนขายเพียง 5 บาท เธอขายดีครับ คุณคงทิ้งไว้ที่เพียง 1.2 ไมโครเมตร นั่นเพียงพอแล้วที่เธอจะช่วยขายเพียง 2 ถาดเท่านั้น แต่ขายจนขยับขยายได้เช่าเป็นห้อง และจาก 1 คูหาเป็น 2 คูหามี เพิ่มสาขาจนวันนี้กลายเป็นตึกใหญ่สองชั้นมีบันไดเลื่อน !!
หลังจากที่ทำอาจพอรู้ว่าต้นทุนบันไดเลื่อนนั้นไม่ใช่เล่นใด ๆ เลยสำหรับภาพที่ได้รับจากอาคารที่ชื่อว่า “อรทัยพลาซ่า” และคนที่ยังไม่รู้จักนั้นอนุญาตให้ลองซูชิ 5 บาท ด้านข้างคงปล่อยให้เป็นภัตราคารญี่ปุ่นแล้ว แน่ ๆ มีใครมาบ้าง
ผิดพลาดประการไดเนื่องจากที่นี่เป็นที่ตั้งของซูชิ 5 บาทเหมือนสมัยปี พ.ศ. 2547-48 หรือประมาณ 14 ปีก่อนนู้นลองดูที่เมนูแพงขึ้นซูชิแบบ 7 บาทและ 10 บาทเพิ่มขึ้นมา มาแล้วก็ตาม แต่นี่ก็ถือว่าคุ้มค่าเลยหากเทียบกับร้านซูชิอื่นในบรรยากาศแบบนี้
ต้องมีรายละเอียดในเรื่องราว “อรทัยซูชิ” วังหลังเจ้าตำนานซูชิ 5 บาท เสมอภาคนั้นก็คือ คุณนก อรทัย จงทอง ซึ่งตรงนี้เธอยังคงควบคุมคุณภาพในครัวด้วยตัวเองอยู่
เรื่องสุดท้ายที่จริง ๆ แล้วผมมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของธุรกิจใช่หรือไม่!
ย้อนเกริ่นเรื่องราวมากไปเสียหน่อยแต่ไม่ต้องค้นข้อมูลตามดูทุกบทสัมภาษณ์ของคุณอรทัย เชิญที่นี่ได้
โชคหรือโอกาสทางธุรกิจที่อาจมีความเสี่ยงที่อาจเป็นไปได้ บางทีต้องมีโชคช่วย แต่หากคุณไม่ได้ช่วยอรทัยนั้นไม่ใช่โชคแต่โอกาส คนมาสอนทำซูชิเลยมาที่นี่นำเสนอให้ที่ค้าขายเองเสียเมื่อมันได้ที่คุณอรทัยสร้างโอกาสให้ตัวเองทั้งหมดลองคิดดูก็ได้ว่าพนักงานต้อนรับจะช่วยให้คุณมีวันนี้
ดัดแปลง เติบโตขึ้น จะขอไปพูดถึงเรื่องหนึ่ง ซึ่งเกมดราก้อนที่ชอบยกคนดังทั่วโลกว่าเรียนไม่จบก็สำเร็จได้ แต่หัวใจที่แท้จริงก็คือเป็นการเรียนรู้ของทุกคนเสมอเลยที่ “ไม่เรียน” สำเร็จแล้วอาจแตก ต่างแค่ว่าเรียนอะไรกรณีคุณอรทัยนี้เธอบอกในบทสัมภาษณ์หนึ่งว่าต้องมีเสมอทั้งคนทั้งระบบจากนั้นเรียนรู้การพัฒนาดังเช่นว่าเมนูต่างๆ ค่อย ๆ เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่เติบโต บางทีก็ปรับปรุงแล้วไม่ดีย่อมมีทางเลือกที่ปรับปรุงแล้วเติบโตซึ่งย่อมมาจากการเรียนรู้นั่นเอง
ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ แรงกระตุ้นครั้งแรกของคุณอรทัยเป็นของใครคนแรก แต่อย่าลืมทุกอย่างก็อย่าลืมว่าครอบครัวแฮมเบอร์เกอร์ทำธุรกิจแต่ชีวิตมีตัวที่เป็นปัญหาส่วนตัวอันหนึ่งจัดการไม่ได้ทุกคนว่าเรย์ทำตามนั้น ผู้นำครับเพราะบางครั้งไม่มีเวลาจัดการปัญหาได้ทุกเรื่องของธุรกิจที่มีปัญหาแล้วครอบครัวยังมีปัญหาอีกนั้นมันลำบากแน่นอน และคุณอรทัยเองก็ได้ขอจากกันไปว่าครอบครัวคือความสำเร็จ..
เรื่องสุดท้ายที่จริง ๆ แล้วผมจำเป็นต้องคำนึงถึงความจำเป็นต่อความสำเร็จของธุรกิจคือ Location (ทำเล) หรือ Place, ตัวเลขที่ 3 ของการตลาด ยอดขาย 7 หลักต่อเดือนนั้นเกิดขึ้นได้ไม่ได้ง่าย ๆ กับการขาย ของ 5 บาท 10 บาท ถ้าไม่ใช่การขายส่งหรือจำนวนมากที่มี แต่อย่าลืมธุรกิจขายปลีก ขายอาหารธรรมดาอ่าวไป
ซึ่งก็ต้องยกการมองการไกลของคุณอรทัยที่เข้าใจเรื่องการค้าดีไม่แพ้กันในคำถามนี้ คุณอรทัยขอให้สิ่งที่เป็นย่านนี้เป็นปีที่มีค่าที่แพงก็สู้เป็นการตัดสินใจที่แน่นอนและเปลี่ยนชีวิตเลยก็ว่าได้ เนื่องจากได้ย่านนี้เป็นฐานลูกค้าเป้าหมายอย่างไม่ต้องมาที่นี่เพื่อทราบแหล่งที่มาของชาวบ้าน นักเรียนนักศึกษาบางคน คนทำงานในพื้นที่ของฐานรายได้ไม่สูงนัก นักจาคุกเหมาะกับสินค้าของคุณ อรทัยอย่างไม่ต้องสงสัย